9สไตล์ในการจัดบ้าน

9สไตล์ในการจัดบ้าน สไตล์การตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยม

9สไตล์ในการจัดบ้าน buy villa phuket ผู้คนจำนวนมากๆที่กำลังพึงพอใจ ต้องการจะตกแต่งห้อง แต่ว่าก็ยังงงเต็กไม่เคยรู้ว่าจะเลือกการตกแต่งสไตล์ไหนดี แบบไหนที่จะตอบปัญหากับไลฟ์สไตล์พวกเราที่สุด วันนี้พวกเราจะพามารู้จัก กับ 10 สไตล์การตกแแต่งบ้าน ยอดฮิต ชื่นชอบแบบไหนอาจจะจำต้องขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน รักแบบไหนถูกใจแบบไหน ทดลองไปดูกันเลยนะ

1. CLASSIC STYLE

สไตล์คลาสสิคเป็นสไตล์ที่ย้ำความสวยหรู มากยิ่งกว่าคุณประโยชน์ใช้สอย การจะมีผลให้รู้สึกหรูหรา พลูวิลล่าภูเก็ต ก็เลยนิยมวางแบบห้องให้มีขนาดใหญ่กว่าธรรมดาหรือทำฝ้าเพดานสูงๆการเปลี่ยนบ้านให้เป็นสไตล์คลาสสิคก็เลยเหมาะสมกับบ้านที่มีพื้นที่กว้างๆรวมทั้งมีฝ้าเพดานที่ออกจะสูง

การใช้อุปกรณ์ของสไตล์คลาสสิค จุดเด่นของการแต่งบ้านสไตล์คลาสสิคเป็นการใช้ที่เป็นอุปกรณ์ธรรมชาติ สำหรับพื้นจะนิยมใช้หินอ่อน หินแกรนิต หรือ บางครั้งบางคราว ก็จะใช้พื้นหินขัด ที่ลักษณะผิวค่อนข้างจะมันวาววับเพื่อมองหรูหรา

การใช้โทนสี และก็การตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ Classic Style โดยส่วนมากจะเน้นย้ำสีที่แสดงออกถึงความโก้หรู หรูหรา ซึ่งชุดสีที่ใช้จะอยู่ในโทนอบอุ่น หรือ Warm Tone สีสำคัญๆ

ที่เพื่อนฝูงๆประสบพบเห็นได้บ่อยตัวอย่างเช่น สีทองคำ,สีน้ำตาล, สีส้ม, สีแดง, สีครีม ฯลฯ การใช้ วอลเปเปอร์วิลล่าภูเก็ตป่าสัก

บ่อยมากที่เจอจะมาในแบบลวดลายที่อลังการ แต่งแต้มลายเล่ห์เหลี่ยมเครือเถาต่างๆจนถึงไปถึงมีเลื่อมทองคำประดับประดาอยู่ในผิวของวอลเปเปอร์ ที่สามารถเพิ่มบรรยากาศของห้องให้มีความหรูหราเลิศเลอ โอ่อ่า ประณีตและวิจิตรบรรจงวิจิตรตระการตา ได้อย่างดีเยี่ยม

2. LOFT STYLE

LOFT สไตล์โก้เก๋ๆที่มีต้นแบบมาจากโรงงานหรือคลังสินค้าในอดีตสมัย village phuket เน้นย้ำโทนสี นํ้าตาล ขาว เทา ดำ โดยจะย้ำองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมข้างในเป็นหลัก

ตั้งแต่วิธีการทำองค์ประกอบของตึก องค์ประกอบหลังคา phuket villa ส่วนประกอบของเพดาน เสา รวมทั้งเหล็กต่างๆให้มองมีความดิบ โดยจัดวางพื้นที่แบบแจ่มใส

การตกแต่งสไตล์ลอฟ์ทย้ำการเปิดพื้นที่ให้โล่งกว้าง ลักษณะที่คล้ายๆกับโรงเก็บของหรือโรงงานที่มีเพดานสูงๆเพื่อระบายอากาศได้ดิบได้ดี รวมถึงทำให้บรรยากาศในบ้านมองสดใสและก็สว่างเยอะขึ้น phuket village รวมทั้งเมื่อเอามาปรับใช้กับการออกแบบข้างในบ้าน

ควรจะทำพื้นที่ด้านล่างให้เปิดเตียนโล่งไปจนกระทั่งชั้นลอยหรือพื้นที่ใต้หลังคา บางคราวบางทีอาจกรุฝ้าเพดานให้สูงเอียงไปตามโครงหลังคาตามสมควรด้วยเหมือนกัน

สไตล์ลอฟ์ทเน้นย้ำประเด็นการจัดวางตำแหน่งข้าวของตกแต่ง ด้วยเครื่องเรือนแบบลอยตัว ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ซึ่งสามารถชูหรือสบายต่อการเปลี่ยนที่

กระทั่งเครื่องเรือนแบบติดล้อ เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ได้อย่างนานาประการ ลักษณะของเครื่องเรือนจำนวนมากเป็นแบบเรียบง่ายหรือบิ๊วอินท์ที่มีน้อยชิ้น แม้กระนั้นคุณประโยชน์ใช้สอยเยอะแยะ อุปกรณ์โดยมากทำมาจากไม้ หนังหรือเหล็กเพื่อกลมกลืนกับองค์ประกอบของบ้าน

3. MINIMALIST STYLE

การตกแต่งบ้านในสไตล์ Minimal เป็นสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เครื่องเรือนน้อยชิ้น แต่ว่ามากมายด้วยคุณประโยชน์ รวมถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่างๆตามความจําเป็นแค่นั้น

ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระบบระเบียบเป็นระเบียบ เอกลักษณ์สำหรับการตกแต่งสไตล์ไม่นิมอลนั้นมักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆรวมทั้งการออกแบบ

อารมณ์ของโทนสีของก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรจะให้ความใส่ใจ villa phuket โทนสีของบางทีอาจอยู่ในโทนสีแบบโมโนโทนก็มองงามเก๋พอได้ หรือบางทีอาจย้ำพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งให้มีความสะดุดตาหรือสีจัดจ้าน สำหรับสไตล์ Minimal มิได้มีโทนสีที่ ชี้เฉพาะ

แม้กระนั้นโดยส่วนมากแล้วจะเน้นย้ำไปที่สีพื้นอย่าง ขาว ดำ เทา ฯลฯ ด้วยเหตุว่าให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่ค่อย ไม่จัดจ้าเหลือเกิน แม้กระนั้นก็สามารถใช้สีโทนอื่นได้เหมือนกัน

แต่ว่าให้คุมโทนไว้สามเฉดหมายถึงสีแก่ สีกึ่งกลาง และก็สีอ่อน ตัวอย่างเช่นเลือกสีดำเป็นสีแก่ สีขาวเป็นสีอ่อน ด้วยเหตุผลดังกล่าวสีกึ่งกลางเป็นสีเทา

เลือกเครื่องเรือนที่มีฟังก์ชั่นการใช้แรงงานที่มากมาย นิยมแบบเรียบในหนึ่งชิ้นสามารถใช้ได้หลายหน้าที่ อาทิเช่น เลือกซื้อตู้โชว์ซึ่งสามารถเป็นชั้นหนังสือ

รวมทั้งชั้นวางโทรทัศน์ได้ด้วย เลือกเตียงที่มีช่องเก็บของเล็กๆใต้เตียง ฯลฯ รวมทั้งแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องเรือนควรจะซื้อเฉพาะเท่าที่มีความจำเป็นรวมทั้งคุมโทนสีของ เครื่องเรือนแต่ละชิ้นด้วย และก็มักเลือกใช้สีขาว หรือสีสันค่อนข้างจะขรึม เพื่อบ้านมีบรรยากาศที่มองเรียบ สงบ รวมทั้งบรรเทา

4. SCANDINAVIAN STYLE

การตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวีย (scandinavian) เหมาะสมกับผู้ที่รักการแต่งห้องในสไตล์เรียบง่าย อบอุ่นแล้วก็สนิทสนมธรรมชาติ มีลักษณะเด่นเป็นการเลือกใช้เครื่องเรือน

แล้วก็ของแต่งห้องจากธรรมชาติเป็นหลักรีวิวบ้านภูเก็ต มีการวางแบบตกแต่งที่มองสะอาดและก็เรียบง่าย ทำให้ห้องของพวกเราน่าอยู่ การแตกแต่งห้องแบบสไตล์สแกนดิเนเวียโทนสีที่เลือกใช้จำนวนมากเป็น โทนสีแบบเอิร์ธโทน เป็นโทนสีที่เอาอย่างสีของธรรมชาติVillas in Pasak

ตัวอย่างเช่น โทนสีสว่าง โทนสีขาวเทา โทนสีน้ำเงินอมเขียว ก็เป็นโทนสีที่นิยมใช้เพื่อสำหรับในการวางแบบตกแต่ง เพราะว่าแสดงถึงความชอบธรรมชาติของสแกนดิเนเวียได้อย่างกลมกลืน

การตกแต่งด้านในของห้องสไตล์สแกนดิเนเวียจะเน้นย้ำการใช้ฟังค์ชั่นที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย ตัดทอนสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป เนื่องจากความง่ายๆและก็ความโล่งเตียนของห้องเป็นข้อดีของการตกแต่งห้องสไตล์นี้ ด้วยเหตุนี้ การใช้ฟังค์ชั่นที่มีการวางแบบเรียบง่ายจะยิ่งทำให้ภาพรวมของห้องไม่มองวุ่นวาย แล้วก็มองสวยสดงดงามอีกด้วย

5. LUXURY STYLE

บ้านสไตล์ luxury ที่สะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบและก็ประสานการตกแต่งด้วยสไตล์หฝ่าส์ ทำให้ทุกองศาด้านในภาย มองสวยงามหรา และก็ตระการตายากจะหาใดเทียบเคียง

ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ โคม แล้วก็ลวดลายอันสวยที่เสริมแต่งแต่งแม้กระนั้นฝาผนังตลอดจนเพดาน สร้างความยอดเยี่ยมให้แขกได้เป็นอย่างยิ่งทีเดียว

ลักษณะการแต่งบ้านสไตล์ Luxury นั้นได้มีการปรับใช้มาจากการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นแรกเริ่ม ซึ่งการตกแต่งโมเดิร์นในแบบเดิมนั้นจะเน้นย้ำเครื่องมือตกแต่งบ้านที่มีความสำคัญ

ตัดส่วนที่ไม่มีความสำคัญออกไปจากตัวบ้าน ย้ำการตกแต่งโดยนึกถึงการใช้สอยเป็นหลัก มิได้เน้นไปที่ความโก้หรูมากจนเกินไป จะย้ำความคล่องตัวเสียมากกว่า

การใช้อุปกรณ์ผสมกันระหว่างความเป็นโมเดิร์นยุคใหม่ที่เน้นย้ำใช้ข้าวของทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้มีความคล่องตัวให้กับความหรูหราโอ่อ่า ยกฐานะข้าวของแบบเดิมๆให้มองมีคุณค่าราคาแพง แล้วก็สร้างค่าที่ไม่อาจจะประเมินเป็นตัวเลขได้

พวกเราชอบมองเห็นโต๊ะ เก้าอี้แล้วก็โซฟาที่มาพร้อมทั้งการออกแบบให้เหนือกว่าการใช้แรงงานทั่วๆไป ทุกสิ่งทุกอย่างเน้นย้ำสร้างราคาความหรูหราเลิศเลอในตัวมันเองทั้งหมดทั้งปวง นอกเหนือจากนั้นบ้านสไตล์ Luxury ยังนิยมปรับใช้สิ่งของจากหินอ่อน ที่มีความเลิศหรูในตัว สามารถใช้ไม้เข้ามาผสม

ในช่วงเวลาที่บ้านแบบโมเดิร์นทั่วๆไปนั้นจะย้ำสิ่งของที่ทำมาจากไม้หรือพลาสติกเพื่อเน้นย้ำการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว แม้กระนั้นการตกแต่งบ้านแบบ Luxury นั้นมีความมากมายหลากหลายมากมายในเรื่องของอุปกรณ์ตกแต่งให้พวกเราเลือกแต่งได้ตามความชอบใจ

6. BEACH HOUSE STYLE

(Beach house style) เป็นการแต่งบ้านที่ไม่มีข้อจำกัดแน่นอน การออกแบบต่างๆขึ้นกับสไตล์ความชื่นชอบของเจ้าของบ้าน โดยหลักสำคัญเป็น

การตกแต่งให้มีบรรยากาศของหาด ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับอยู่ใกล้สมุทร ย้ำให้มองเห็นถึงความสวยสดงดงามของธรรมชาติ โดยจัดตกแต่งให้มีความสอดคล้อง มองสบายตา และก็ บรรเทา

การเลือกสีสำหรับในการตกแต่ง ซึ่งแน่ๆว่าเมื่อพวกเราจินตนาการถึงภาพหาด ทะเลแสนงาม สีแรกๆที่ผุดขึ้นมาก็คงหนีไม่พ้น “สีฟ้า”

ถ้าคุณปรารถนาบ้านที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนอยู่ริมหาดแล้วล่ะก็ สีฟ้าเป็นสีที่จำเป็นเลยสำหรับเพื่อการแต่งบ้าน นอกเหนือจากนั้นยังมีสีน้ำเงิน สีขาว สีน้ำตาล

ซึ่งสามารถใช้แต่งบ้านให้มองเป็นสไตล์บีชเฮ้าส์ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งคุณสามารถเลือกตกแต่งได้ตามความชื่นชอบ ดังเช่น ถ้าบ้านของคุณมีฝาผนังสีขาวอยู่แล้ว

บางทีอาจเลือกลงสีฟ้ารอบๆขอบหน้าต่าง หรือหาผ้าม่านสีฟ้า หรือสีน้ำเงินมาตกแต่ง นอกเหนือจากนี้ยังสามารถนำเครื่องเรือนที่มีโทนสีฟ้า หรือ สีน้ำตาลมาตกแต่ง ฯลฯ

7. MODERN STYLE

บ้านสไตล์โมเดิร์น(Modern Style) เป็นลักษณะของบ้านอีกแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับการก่อสร้างในขณะนี้ การออกแบบลักษณะข้างในของบ้านสไตล์โมเดิร์น

จะย้ำความโล่งโล่งเตียน ดีไซน์เป็นหลักกลางแจ้ง ไม่นิยมการก่อฝาผนังกันมากมายราวกับบ้านทรงอื่น รวมทั้งการจัดวางเครื่องเรือนที่เรียบง่ายและไม่มากมายเหลือเกิน

ความมัธยัสถ์ของการผลิตบ้านแบบโมเดิร์นนอกเหนือจากที่จะมัธยัสถ์ในส่วนหลังติดอยู่แล้ว ยังบางครั้งก็อาจจะรวมทั้งการผลิตฝาผนังแบบปูนเปลือยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องลงสี

หรือพื้นปะปนลือย ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องปูกระเบื้อง ทำให้มัธยัสถ์งบประมาณอย่างยิ่ง และก็ยังรวมทั้งส่วนเพดานซึ่งบางทีก็อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องทำฝ้าเพดานราวกับบ้านทรงธรรมดา

แม้กระนั้นอาศัยการเดินท่อลอยบนพื้นสำเร็จรูปซึ่งพบได้มากมองเห็นได้ทั่วๆไป ยกตัวอย่างเช่นร้านขายกาแฟ หรือร้านค้าที่ดีไซน์ในทรงยุคใหม่ต่างๆ

Modern Style ใช้น้อยสี สีสันที่ใช้ในสไตล์โมเดิร์นนั้น มักใช้ไม่มากไม่น้อยเลยทีเดียว มักเล่นบันเทิงใจกับสีสันด้านในห้องแค่เพียง 2-3 สีเพียงเท่านั้น โดยส่วนมากแล้วมักใช้สีขาวเป็นโทนสีหลัก

ซึ่งโทนสีขาวนั้นจะช่วยทำให้ปรับด้านในห้องนั้นกำเนิดความโล่งเตียนโล่งสบาย ดังนี้ถ้าเกิดเกลียดสีขาวเพราะว่ามีความรู้สึกว่าดูแลยาก ให้ทดลองใช้สีเทา หรือสีดำ ก็ได้ แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยแทรกแซมสีสันผ่องใสเข้าไปอีกครั้งนึง

8. VINTAGE STYLE

เป็นการตกแต่งบ้านที่ได้เลียนแบบแบบอย่างการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในสมัยเก่ามาใช้ด้วยกันกับของตกแต่งที่แก่การใช้แรงงานนาน (เก่า)

ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ ตู้เตียง เก้าอี้ โซฟา เคาน์เตอร์ แจกัน ตะเกียง อื่นๆอีกมากมายรวมถึงการตกแต่งด้านในที่เน้นย้ำการผลิตบรรยากาศให้มองอบอุ่น จากการเลือกสีสันของลวดลายของผ้าม่าน วอลเปเปอร์แล้วก็โทนสีของบ้าน

การแต่งบ้านสไตล์ Vintage มักเป็นเครื่องเรือนไม้เก่ามาใช้สำหรับการตกแต่ง ก็เลยทำให้จะต้องมีการดูแลมากมายว่าเครื่องเรือนที่ทำจากวัสดุอื่นๆ

เพราะคุณลักษณะของไม้เองที่มีคงทนถาวรต่อความชุ่มชื้นและก็อุณหภูมิต่ำจำเป็นที่จะต้องรักษาเครื่องเรือนให้แห้งอยู่เป็นประจำ เลี่ยงความชุ่มชื้นหรือตั้งอยู่ในรอบๆที่ฝนหรือแดดส่องเข้ามาถึงควรจะเปิดบ้านเพื่อระบายลม

โดยใช้สีอ่อนสบายตา อย่าง สีขาว ครีมรวมทั้งน้ำตาล เป็นโทนสีหลักเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นของในสมัยก่อน เอกลักษณ์ที่เด่นสำหรับสไตล์นี้เป็นการเพิ่มเนื้อหา

ของการตกแต่งด้วยผ้าลูกไม้ ผ้าลายเถาหรือลายดอกไม้สวยหวาน บางทีอาจจะเอามาห่อหุ้มเป็นปลอกที่เอาไว้สำหรับใส่หมอน หมอนอิง ผ้าปูโต๊ะ ติดระบายผ้าม่าน ก็ช่วยเสริมให้สไตล์นี้มองเด่นเพิ่มขึ้น

นอกนั้นยังสามารถเอามาดัดแปลงห่อหุ้มโซฟาหรือวิธีตอกหมุดแบบโบราณเสริมเข้าไปก็ยิ่งช่วยเพิ่มความเป็น Vintage ได้โดยไม่จำเป็นต้องหาซื้อเครื่องเรือนใหม่เลย สำหรับเก้าอี้บางทีอาจจะทำเบาะรองนั่งเย็บเล่ห์เหลี่ยมเป็นระบายกุ๊นตามขอบด้วยพู่เล็กก็ทำให้เก้าอี้มองสวยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

9. RETRO STYLE

ข้อดีของการตกแต่งบ้านแบบ Retro Style เป็นกระบวนการทำให้บ้านของพวกเรามองสะดุดตา รื้นเริง กระปรี้กระเปร่า ซึ่งรวมถึงการตกแต่งบ้านให้ออกมาจัดจ้าแล้วก็จี๊ดจ๊าดในแบบที่ไม่ซ้ำใคร

ซึ่งแนวทางของใช้สำหรับตกแต่งบ้านแบบ Retro ไม่สำคัญจึงควรตกแต่งให้ย้อนยุคดังแบบวินเทจ ซึ่งช่วงที่ชาวไทยหลายคนนิยมตกแต่งย้อนยุคในแบบ Retro ก็คือสมัย 2499 อันธพาลครองบ้านครองเมือง นั่นเอง โดยส่วนสำคัญของการตกแต่งบ้านแบบ Retro Style ก็มีดังนี้เลย

โทนสีจะต้องจี๊ดจ๊าด เรื่องของโทนสีไม่เฉพาะเจาะจงว่าจึงควรใช้โทนสีไหนเป็นพิเศษ ด้วยเหตุว่าในแต่ละช่วงจะมีชีวิตชีวาเฉพาะสมัยนั้นๆอยู่แล้ว อย่างโทนสีพาสเทลที่เป็นของสมัย 50’s ไปจนกระทั่งสีสันที่บาดตาของสมัย 70’s เป็นต้นว่า สีเขียว สีส้ม และก็สีเหลืองมะนาว

เครื่องเรือนจำต้องเก๋ ในแต่ละสมัยก็จะมีเครื่องเรือนที่ออกแบบเก๋ๆตามแต่ละสมัยด้วยเหมือนกัน ฉะนั้นวิธีการสำหรับเลือกซื้อเครื่องเรือนจำเป็นต้องเลือกให้ดีว่าพวกเราตกแต่งตามสมัยไหน

และไม่ว่าจะทรงเรขาคณิต โค้งมน หรือแบบไหนก็ตาม แม้กระนั้นเครื่องเรือนในแบบ Retro จึงควรใช้เพียงแต่น้อยชิ้น แล้วก็แต่ว่าชิ้นก็ควรมีความสะดุดตาในตนเอง

เลือกของตกแต่งให้โดน การแต่งบ้านแบบ Retro ที่ต้องมีให้ได้เลยก็คือพวกของตกแต่งนั่นเอง อย่างเช่น นาฬิกา ตุ๊กตา โมเดล และก็รวมถึงวอลเปเปอร์บนฝาผนังด้วย ด้วยเหตุนั้น การเลือกของตกแต่งที่ดี แล้วก็ต้องใจจะช่วยเพิ่มความเป็น Retro ในแบบอย่างของคุณที่ไม่ซ้ำใครอย่างไม่ต้องสงสัย